สาระสำคัญที่ต้องรู้ก่อนจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
สาระสำคัญที่ต้องรู้ก่อนจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
ปัจจุบันไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่แบรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆเต็มไปหมด การจะเริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์เครื่องสำอางนั้นจึงดูยากมากแต่ธุรกิจนี้ยังคงเติบโตแบบไม่มีถดถอย สาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเครื่องสำอางมีอัตราการเจริญเติบโตและขยายอย่างต่อเนื่องทุกปีเพราะผู้คนในยุคปัจจุบันทั้งเพศชาย เพศหญิง และเพศที่สามทั้งหลายในทุกๆช่วงวัย
โดยเฉพาะในวัยหนุ่มสาวต่างให้ความสนใจใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ความงาม และผิวพรรณรวมทั้งการดูแลตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ความงามในท้องตลาดไม่ว่าจะเป็นเมดอินไทยแลนด์หรือนำเข้าจากต่างประเทศ ขายดิบขายดี ทำเงินก้อนโตให้กับผู้ประกอบการของไทยและต่างชาติเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
เพื่อช่วยให้คุณได้เข้าใจในการเริ่มทำธุรกิจเครื่องสำอาง วันนี้เราจะมาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการคิดและตัดสินใจในการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ควรเตรียมตัวอย่างไร? จะเริ่มขั้นตอนไหนดี? ที่จะมีแบรนด์เป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
BrandOEM จะมาเผยเคล็ดลับสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางให้รับฟังเป็นแนวทางในการเริ่มธุรกิจกัน
1.ศึกษาข้อมูลในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
เริ่มต้นการทำกิจการอะไรสักอย่างเราควรที่จะต้องศึกษาหาข้อมูลให้เข้าใจมากที่สุดให้ได้รู้ว่าในสิ่งที่เราจะทำนั้น มีแนวทางไปในทางทิศทางใด ศึกษาโอกาสความเป็นไปได้ในธุรกิจ ศึกษาข้อดีข้อเสียของธุรกิจ สิ่งใดควรกระทำและสิ่งใดไม่ควรกระทำ
การที่เราจะลงทุนทำธุรกิจลูกค้าต้องรู้ก่อนว่าเราทำอะไร ขายให้กับใคร เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของการลงทุน ดูเรื่องช่วงราคาที่จำหน่ายในตลาดและเทรนด์ช่วงนี้เป็นอย่างไร มีสินค้ารูปแบบไหนที่กำลังเป็นที่นิยม ศึกษาสินค้าแนวเดียวกันที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดให้เรารู้ถึงสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเราอยากได้และอยากใช้จริง เพื่อเป็นการเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าที่ง่ายกว่าเดิม ต้องตั้งคำถามและตอบคำถามให้ตัวเองได้แบบชัดเจนเพราะคำตอบจากการเริ่มต้นนี้ จะเป็นตัวกำหนดหนทางขั้นต่อไปได้อย่างดี
3.ตรวจสอบงบประมาณของคุณ
เงินทุนงบประมาณ เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญมากที่สุดของการเริ่มต้นธุรกิจเพราะสิ่งนี้คือตัวชี้ทิศทางของเรา เราต้องบริหารเงินทุน ยอดขาย ผลกำไร ให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อการวางแผนทางการเงินได้อย่างไม่ติดขัด
4.สำรวจเจาะลึกที่คู่แข่ง
สำนวนที่ว่า “รู้เขา รู้เรา” ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ยังคงใช้ได้เสมอ ในการทำธุรกิจก็เช่นกันต้องศึกษาแบรนด์คู่แข่งอย่างละเอียด เมื่อวางแผนแบบคร่าวๆแล้วว่าจะทำเครื่องสำอางประเภทไหน กลุ่มเป้าหมายไหน ตั้งราคาประมาณไหน ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้กำหนดคู่แข่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มองหาแบรนด์ที่ขายสินค้าในแบบเดียวกันราคาและกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกัน โดยสำรวจว่ามีสินค้ากี่แบบที่วางขายอยู่ตอนนี้ มีช่องทางการจำหน่ายอย่างไร อ่านคำแนะนำติชมของลูกค้าในแบรนด์คู่แข่งต่างๆ รวมถึงโปรโมทชั่นของแต่ละแบรนด์ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดทิศทางและวางแผนแบรนด์ของเราต่อไป
5.วิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพให้สินค้าของตัวเอง
จากที่เราได้สำรวจแบรนด์คู่แข่งแล้วเราก็มาดูว่าแบรนด์ของเรามีจุดเด่นตรงไหน ต้องหาและสร้างจุดเด่นนั้นออกมาในแบบที่ไม่เหมือนใคร หรือเน้นความโดดเด่นในเรื่องภาพลักษณ์ก็สามารถเลือกใช้สูตรที่สำเร็จจากโรงงานผลิต ปรับสี กลิ่น หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์แล้วนำมาสร้างแบรนด์เพื่อขายได้เลย
6. ศึกษาและเลือกโรงงานผลิต
การเลือกโรงงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆของการผลิตสินค้าและสร้างแบรนด์ เพราะในปัจจุบันโรงงานที่รับผลิตและสร้างแบรนด์นั้นมีค่อนข้างมากเราจึงต้องเลือกโรงงานผลิตที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน พอมีข้อมูลโรงงานแล้วเราก็ต้องเข้าไปพูดคุยโรงงานที่เลือกไว้ เพื่อพิจารณาบริบทแวดล้อมอย่างอื่นประกอบการตัดสินใจ สภาพโรงงาน บริการ เงื่อนไขการผลิต การขนส่ง บริการหลังการขาย โปรโมชั่น บางที่อาจจะเน้นราคาถูกเพื่อให้เหมาะกับการเริ่มต้น บางที่มีชื่อด้านประสบการณ์มากมายในตลาดเครื่องสำอางซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีภาษีเหนือกว่า จงจำไว้ว่า คุณคือผู้มีโอกาสเลือก เลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้โรงงานผลิตแข่งกันสูง บางโรงงานดึงลูกค้าด้วยโปรโมชั่น “ไม่มีขั้นต่ำในการผลิต” ด้วยซ้ำไป
7.วางแผนการตลาด
เมื่อเราได้กลุ่มเป้าหมายและโรงงานการผลิตแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการคัดเลือกแบรนด์และตำแหน่งพื้นที่ที่คุณต้องการขายให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้ตั้งแต่ต้น ต่อให้มั่นใจว่าสินค้าดีแค่ไหนแต่การตลาดจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เงินจากสินค้าและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้มากยิ่งขึ้น ยุคนี้โชคดีที่การตลาดออนไลน์กำลังเฟื่องฟูแต่เราก็ต้องรู้จักใช้ให้เป็น facebook,line,Instragram,website เราอาจเคยใช้งานแต่ในทางการตลาดต้องมีเทคนิคที่จะให้เครื่องมือเหล่านี้เป็นกระบอกเสียงในการโฆษณา ขอแนะนำว่าหากไม่มีประสบการณ์ไม่รู้ว่าจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ยังไงควรจะปรึกษาผู้เชียวชาญด้าน social อาจจะต้องเสียต้นทุนเพิ่มแต่ผลที่ได้น่าจะดีกว่าลองผิดลองถูกเอง
8.ออกแบบแบรนด์และผลิตภัณฑ์
การออกแบบแบรนด์และบรรจุภัณฑ์นั้นต้องเลือกหาสินค้าให้เหมาะกับวัตถุดิบ ลักษณะและวิสัยทัศน์ของแบรนด์ เอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ควรจะสื่อตัวตนของแบรนด์ออกมาให้ชัดเจน ฉีกตัวเองให้โดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่ง และควรคำนึงถึงการใช้งานให้เหมาะสมและไปในทิศทางเดียวกัน แบรนด์ คือสิ่งแรกที่ลูกค้าจะจดจำได้เร็วที่สุด ดังนั้นแบรนด์จึงสำคัญอันดับต้นๆการสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้า และหาข้อแตกต่าง ก็อาจทำให้สินค้าอยู่ในอันดับต้นๆได้ ถ้าเราไม่สะดวกหรือไม่มีความชำนาญในด้านการออกแบบก็สามารถปรึกษาและใช้บริการจากบริษัทฯที่เป็นผู้เชี่ยวชาญได้
9.สั่งผลิตสินค้าและจำหน่าย
การสั่งผลิตสินค้าต้องมั่นใจว่าเป็นสูตรที่ลูกค้าต้องการเป็นที่แน่นอนแล้ว เพราะการเปลี่ยนแปลงปรับสูตรสำหรับสินค้าในภายหลังไม่เป็นผลดีกับเจ้าของแบรนด์และความรู้สึกของผู้บริโภค การผลิตที่ดีต้องสามารถตรวจสอบถึงที่มาของสารประกอบที่ใช้ได้ เพื่อความมั่นใจระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
10. พัฒนาธุรกิจแบรนด์ตามจังหวะและโอกาส
เพราะโลกของการตลาดไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เมื่อสินค้าพร้อม แผนการตลาดพร้อม คุณเองก็หยุดไม่ได้เช่นเดียวกัน การพัฒนาแบรนด์ หาช่องทางการทำการตลาด เพิ่มกลุ่มลูกค้า คือหน้าที่สำคัญที่ CEO หน้าใหม่จะลืมไปไม่ได้ที่จะตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ ดังนั้นจงศึกษาเทรนด์ใหม่ๆ พัฒนาสูตร พัฒนาสินค้า ไปจนถึงหมั่นติดตามช่องทางการทำการตลาด ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนโลโก้หรือบรรจุภัณฑ์ให้ต้องตาโดนใจของลูกค้าแต่ละช่วงสมัย ให้สินค้าของแบรนด์คุณดูดีเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอเพราะความต้องการของคนเราย่อมไม่หยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งตลอดไป ถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่าก็ต้องเลือกตัวเลือกนั้นตามเหตุผลข้างต้น จึงเป็นสาเหตุที่เราเจ้าของแบรนด์ไม่ควรที่จะหยุดพัฒนาธุรกิจสินค้าของเราเช่นกัน
แหล่งที่มา >> BrandOEM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น